ลักษณะของหุ้นTrading ลุกช้าจ่ายรอบวง

วิธีดมกลิ่นเจ้ามือ #ZIGA ขึ้นแบบบั้งไฟ ก็ลงแบบบั้งไฟ

สิ่งมหัศจรรย์ของหุ้นคือ มันเป็น Zero sum game
ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจน มีสิทธ์ที่จะได้หรือเสียเท่าๆกัน

ก่อนอื่นผมยินดีด้วยสำหรับคนที่ได้กำไรจากหุ้นตัวนี้
แต่หลายๆคนคงเจ็บช้ำ โดยเฉพาะนักเล่นหุ้นประสบการณ์น้อย
ที่ผมพบบ่อยนิสัยนักลงทุนหลายคนจะชอบเข้าหุ้นที่ตัวเองชอบ ได้กำไรจากตัวไหน
ก็จะไปเข้าตัวเดิมๆและมักแนะนำเพื่อนๆ ให้เข้าซื้อตาม

..บางทีได้กำไรบางครั้งหุ้นลงขายไม่ทัน เสียเพื่อนไปก็มีครับ
สุดท้ายก็คืนกำไร หรือถัวจนขาดทุนและอาจขาดทุนมากกว่าเดิมถ้าไม่กล้าคัท

หุ้นแบบนี้ผมเรียกว่าหุ้น Trading: หมายถึงคุณต้องเล่นไวๆ จบในวัน
ต้องเฝ้าจอกล้าคัท-กล้าขาย ไม่ใช่หุ้นที่จะถือยาวๆแล้วไปทำงานอย่างอื่น

…ผู้เล่นต้องดูจังหวะ Bid Offer / ดู Ticker / ดู fibonacci ใน Timeframe ย่อย
เพื่อแบ่งไม้ซื้อ และหาจุดขาย(เห็นไหมครับ กว่าจะได้ตังเขา ต้องรู้ขนาดนี้เลย)

ถ้าไม่มีประสพการณ์ แล้วขาดทุนก็ไม่แปลกครับ และหากไม่มีประสพการณ์และได้กำไร จึงถือว่าดวงดีมากทีเดียว

จำคีย์เวิร์ดไว้ครับ:“จังหวะเสี่ยง อย่าปเล่น เล่นเฉพาะ Volume เคาะขวาเข้ามากๆก็พอ”

เพราะหุ้นแบบนี้ มีแต่คนอยากขายเมื่อราคาตก!

การรอรับ และไปขายแพงขึ้นๆจึงเป็นสิ่งที่ได้เปรียบกว่า
ผมยังไม่คิดว่าเจ้ามือจะลากไปสุดฟิโบ แล้วตบลงทีเดียวขนาดนี้ ถือว่าเป็นเจ้าที่โหดมากทีเดียว

ถ้าใครไม่มีเวลา อ่านสรุปตรงนี้พอครับ
พฤติกรรมหุ้นปั่น Trading:

  1. ธุรกิจเดิมยังทำได้ไม่ดี แต่มีข่าวดีรัวๆจะไปทำธุรกิจใหม่
  2. ราคาขึ้นมารวดเร็วแบบไร้เหตุผล (รีบเล่น และมักรีบจบ)
  3. ไม่เจอสัญญานกลับตัว ไม่มีแท่งพักตัว (รายใหญ่ขยับราคาให้พ้นทุน ให้เร็วที่สุดไล่คนออก)
  4. พบแท่งเปิด เขียวสูงปรี๊ดๆ ทะลุทุกแนวต้านนี่เป็นสัญญานเริ่มรอบ

ถ้าใครมีเวลา
อยากรู้พฤติกรรมเจ้ามือ ดูภาพกราฟZIGA ในรูปด้านล่าง แล้วอ่านที่ผมอธิบาย ว่า A, B, C, D คืออะไร
อ่านเพียง 5นาทีแล้วหมั่นทบทวนดีกว่าเสียตังเองแน่นอนครับ

กราฟหุ้น ziga timeframe Day

ดมกลิ่นเจ้ามือ
ดูอย่างไรว่าหุ้นแบบนี้เป็นหุ้นปั่น

Stage A: ระยะเก็บหุ้น
ขั้นที่1: เก็บหุ้น
ในระยะยาวเห็นว่า Volume เริ่มแห้ง ไร้แรงขาย
โดยเฉพาะที่ 3.8บาท มีการสะสมหุ้น ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย จนถึง 4.8บาท

ขั้นที่2: เช็คชื่อ
ที่เหนือราคา 4.8 มี Volume เข้าอย่างต่อเนื่อง
จนไปถึงราคา 5.4
-คนทำราคาจะบอกคนรู้จักให้เข้าซื้อ
-เมื่อรายใหญ่คนหนึ่งเข้าซื้อ นายหน้าบางคนก็จะบอกรายใหญ่อีกหลายๆท่านสนิทกันให้ซื้อตาม
-เกิดการกระจายข่าวภายใน (ซื้อตามกัน)..จุดนี้คือต้นน้ำ

STAGE B: เกิดแท่งยาวจาก 5.9 ไปถึง 7.1
ขั้นที่1: ได้กลิ่นจาก Volume
-รายใหญ่บางคนที่รู้ข่าวช้าจะซื้อตรงนี้
-แน่นอนว่า มีนักลงทุนแบบเทคนิคคอล ได้กลิ่น
เนื่องจากมี Volume เข้ามากผิดปกติ จนทะลุแนวต้านเดิม 7.1บาท ได้ง่ายๆเพียง 2วันเท่านั้น
(***แน่นอน ผมก็เข้าซื้อตรงนี้***)

ทะลุแนวต้านพร้อม Volume มหาศาล = ทำราคาต่อ

ขั้นที่2: ดันราคาให้พ้นต้นทุน
คนทำราคาจะปิดเต็มแท่ง ที่ปลาย Stage B
เพื่อให้ราคาอยู่เหนือทุนให้เร็วที่สุด
(ตอนนี้เจ้ามือกำไรแค่ 20% ถือว่าเท่าทุน เพราะต้องจ่ายหลายคน)
คีย์เวิร์ด: “เขาต้องดันราคาต่อ”

Stage C: ปล่อยข่าวดี เปิดโดด
(ในขั้นนี้จะเห็นข่าวหุ้นตัวนี้ มีข่าวดีแทบทุกสื่อ)
-เปิดราคาไปที่ 10.5 ตรงเส้น Fibo สีฟ้าพอดี
-เส้นนี้เป็นเส้นวัดใจนักลงทุนแบบเทคนิคอล เนื่องจาก ถึงเส้นนี้ มันต้องพัก(หมายถึงราคาต้องลงก่อน)
**ยกเว้นกรณีเดียวคือเป็นสินค้าปั่นราคา
-นักลงทุนสายเทคนิคมักขายครึ่งหนึ่งหรือขายหมดที่จุดนี้
-ขั้นตอนนี้ คนทำราคาจะเคาะเก็บช่อง และยกหลบไปเรื่อยๆ จนราคาไหลขึ้นสูงไปได้ด้วยVolume ลดน้อยลง

*เคาะเก็บช่องหมายถึง:
เมื่อมีOffer ที่ราคาไหนน้อยๆเพียงไม่กี่หุ้น
เขาก็จะกดซื้อให้หมด เพื่อให้ผ่านราคานั้นไปได้ไวๆ

*ยกหลบหมายถึง:
เมื่อมี Offer ของเขาเองวางขวางอยู่ที่ราคาหนึ่ง
แล้วเห็นว่ามีคน(ลูกค้า) เคาะขวาเยอะๆ=มีแรงซื้อต่อเนื่อง
เขาก็จะยกOffer หลบ ให้ราคามันขึ้นไป

Stage D: เลี้ยงราคา ทยอยขาย และขาย MP
ขึ้นที่1: เลี้ยงราคา
-รายใหญ่จะขายออกที่โซนราคานี้
-ข้อสังเกต Offerในกระดานเหลือน้อยกว่าปกติ แต่ราคามักไม่วิ่งขึ้นข้ามช่องอย่างรวดเร็วแบบช่วงแรกๆ
เพราะ เมื่อVolume ช่องนั้นๆใกล้หมด คนทำราคาจะเติมVolume ที่ช่องOffer เพื่อล๊อกกำไร
-จากนั้น เมื่อรายย่อยเข้าซื้อจนหุ้นติดอันดับ Most Volume และแสดง Ticker ในกระดานรัวๆ
-คนทำราคาจะยกหลบข้ามช่องไปมาบ่อยๆ ให้รายย่อยที่ไม่มีหุ้น คนพร้อมเสี่ยง หรือขายไปหมดแล้ว กลัวตกรถ เข้ามาไล่ราคา
-ขั้นตอนนี้รายใหญ่ จะวางBid ขายไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่หมด
ราคาไปหยุดที่บริเวณ 18.9บาท…จุดนี้ถือเป็นปลายน้ำ

ขั้นที่2: ขาย MP
-เมื่อเห็นว่ามีแรงซื้อน้อยลง(กราฟสูงเกินไป)
-ปกติแล้วรายย่อยที่ทุนต่ำจะขาย
-นักลงทุนเทคนิคอลจะไม่กลับมาแล่นอีก
-คนทำราคาจะเปิดโดด “เฮือกสุดท้าย”
(รวบVolume ในราคาเปิด ATO ใช้เงินเล็กน้อย เพราะมี Volume น้อยมาก)
-ราคาวิ่งไปที่เหนือ21.5บาท(เส้นฟิโบสีแดง)
-เมื่อพบว่า Offer ด้านล่างไม่ใช่ของตนเอง
-คนทำราคาจะสั่งขาย MP

*ขายMP หมายถึง ขายทุกราคาตามจำนวนที่กำหนดจนหมด

ระยะนี้จะเกิดการเด้งไปมาของราคา
เพราะรายย่อย และรายย่อยที่เงินใหญ่ๆ จะถัวเพราะคิดว่าแนวรับนี้รับอยู่ โดยเฉพาะที่ 14.7บาท

จริงๆแล้วหุ้นที่ “ขึ้นแบบไม่พัก”
แนวรับใหญ่ไม่ใช่เส้นแดง แต่เป็นเส้นฟ้าล่างสุด(7.1บาท)

จุด14.7บาทนี้ ไม่ใช่จุดที่จะถัว มันเป็นจุดคัท
*เมื่อรู้ว่าต้องมีคนถัวตรงนี้
ผมซื้อตรงนี้ เล่นไวๆ จบในวัน พอได้ลุ้นเล็กน้อย

ขั้นสุดท้าย: ไหลลง หมดรอบ
แน่นอนครับ รายใหญ่เขาได้กำไรแล้ว 170%
เขาขายได้ทุกราคา หากจะเล่นต่อในรอบใหม่ ราคาจะเด้งที่ 7.1 หรือ 6.3 ครับ

กราฟหุ้น ziga timeframe 3min

สังเกตกราฟใน Timeframe 3min
จะพบ Full sales stage คนที่เล่นกราฟ Day จะมองไม่เห็นและไปรับซื้อหุ้น
…ไม่รอดแน่ๆครับ

หุ้นซิ่ง หุ้นTrading ต้องเช็ค ทุก Timeframe

ฉะนั้นคนที่ดู Timeframe ใหญ่เช่น Day, TF60 ทำคือตีกราฟขาขึ้น และหาแนวรับย่อยๆ ไปรับของ
ซึ่งความจริงแล้ว ในTimeframe ย่อย มันเป็นกราฟขาลงเรียบร้อยแล้ว
สังเกตว่าที่ Timeframe3min มีแรงขาย มากกว่าแรงซื้อ

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

  • คนมีของเยอะๆ เขาSELL MPกะให้ Volume ที่ขายพอดีกับแนวรับย่อยตั้งOffer
  • พวกเก็งกำไรระยะสั้นคิดว่ารับอยู่ก็ไล่ราคาที่แนวรับพยุงราคาไว้
  • พอมีคนไล่ราคาน้อยลง ไร้ Offer แล้ว รายใหญ่กดMP ทุกราคา
  • ทุนเขาแค่ 4.50-5.00 บาท ยังไงเขาก็กำไร

อ่านทบทวน
ศึกษานิสัย แล้วจะเข้าใจหุ้นปั่นครับ

stockisfun

stockisfun

ผู้หมกมุ่นอยู่กับการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ หุ้น TFEX FOREX ทอง คู่เงิน และ Cryptocurrency ผู้เขียนมีลูกสองคน เขียนบทความเพื่อบันทึกไว้ให้ลูกอ่าน หากมีคนในเพจมาอ่านก็ยินดีอย่างยิ่ง บางครั้งก็สอนหุ้นเป็นงานอดิเรก

Recent Posts

Follow Us

Related Posts