หุ้นขึ้น ทำไมไม่มีเรา..?

วิธีจัดการตัวเองเมื่อรู้ว่าตกรถ

กรณีศึกษา: หุ้นที่มีแม่และลูก BKD กับ BKD-W2

หลายครั้งเรามักสงสัยว่าเออหุ้นตัวนี้ขึ้นนะ มันจะชนลิ่งแล้วแต่ราคาที่มันวิ่งไปแล้วนี้มันแพงไป ไม่กล้าซื้อ
กลัวซื้อแล้วมันจะดอยไหม.. บางครั้งมันก็มีวิธีหาหุ้นที่มันจะวิ่งแน่ๆ แต่มันยังลังเลเก้ๆกังๆ
ผมขอเรียกหุ้นแบบนี้ว่า “หุ้นเฉื่อย..หุ้นรู้สึกตัวช้า” แต่เดี๋ยวมันก็วิ่ง

กฏประจำ 3ช้อ ในการหาหุ้นจ่อวิ่ง มีดังนี้ครับ
1. หุ้นแม่ลูก (ราคาหุ้นสามัญต้องใกล้เคียงกับวอแรนต์เสมอ)
2. หุ้นจับมือ (หุ้นใดๆที่มีกิจการร่วมกันวิ่ง มันต้องวิ่งคู่กัน)
3. หุ้นเพื่อนบ้าน (หุ้นใดที่อยู่ตลาดเดียวกัน ขึ้น ลงเหมือนกันในคราวก่อน มันก็จะวิ่งเหมือนกัน)

1. หุ้นแม่ลูก: แม่วิ่ง ลูกต้องวิ่ง..ถ้าซื้อแม่ไม่ทันซื้อลูกก็ได้

เช้าวันที่16/Mar/2022 เวลา 10.30น, ผมนั่งดูหุ้นตามปกติแล้วพบว่า
-BKD หุ้นแม่(หุ้นสามัญ) มีVolumeเข้าซื้อมากกว่าปกติในรอบหลายเดือนจน (ราคาBKDเบรก)ผ่าน 2.45บาทไปแล้ว
-ผมก็คิดว่าลูกมันต้องวิ่งไปก่อนแล้วแน่ๆ แต่พอไปดูก็เห็นว่าราคา BKD-W2 อยู่ที่ 0.26บาท(ราคายังไม่เบรก)
-ให้คิดเสมอว่ามันอาจลากหุ้นแม่ไปปล่อยดอยแน่ๆ
แต่พอดูกราฟเทียบกันในรูปด้านล่างก็พบว่าราคาลูกมักเฉื่อยเสมอ
แสดงว่าเจ้ามือทำงานคนเดียวหรือกลุ่มเดียว พอทำราคาตัวแม่ก็ไม่ว่างทำราคาตัวลูก
-และครั้งนี้ลูก เฉื่อยผิดปกติ; หมายถึงมี Volume ซือขายน้อยในวันนี้ ทั้งที่ตัวแม่มีVolumeเข้ามหาศาล
-แสดงว่าคนมัวแต่ไปมองหุ้นแม่จนลืมสนใจลูก
ฉะนั้นเราซื้อครับ ซื้อก่อนคนอื่น
-10.45น. ผมซื้อBKD-W2ที่ราคา0.26บาท

กราฟ BKD
กราฟ BKD-W2

-หลังจากนั้นผมไม่ดูราคาหุ้นลูกอีกเลยและไปสังเกตราคาหุ้นแม่ว่าเบรกกรอบ 2.64บาทไหม
-ซึ่งพอไปดูกราฟย้อนหลังBKDในTimeFrameDay ก็พบว่าครั้งก่อนหุ้นตัวนี้
เวลามีVolumeเข้ามันจะเบรกแน่นอน
ไม่วันนี้ก็วันถัดไปสังเกตได้ดังภาพด้านล่าง(ลูกศรสีเขียว)

-มีเงื่อนใขเดียวคือBKDต้องเบรก2.64บาท และผมเชื่อว่าทำได้ เพราะเป็นพฤติกรรมซ้ำๆที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
เวลา12.15ฺน. BKDแม่เบรกกรอบ2.64บาท แต่ตัวลูกยังไม่วิ่ง
คราวนี้คนที่ตกรถจากหุ้นแม่ เขาก็เริ่มมองหาซื้อหุ้นลูกแทน
ทำให้ราคาหุ้นลูกวิ่งเป็นจรวด(คนเหล่านี้รู้ตัวช้า)

-เราซึ่งมีหุ้นลูกอยู่นานแล้ว หน้าที่ของเราคือไปดูว่าจะขายตัวลูกที่ราคาเท่าไหร่
สังเกตได้ว่าครั้งที่แล้วราคาที่เหมาะสมควรเป็นยอดของกราฟเดิมคือ0.44บาท (ลูกศรสีเหลือง)

-ผมตั้งขายไม้แรกที่ 0.44บาท
และเหลือไว้เพื่อไปขายในวันพรุ่งนี้อีก(เหมือนที่มันขึ้นไปแล้วทำแท่งแดงในอดีต)
-ผมตั้งราคาBKD-W2ส่วนที่เหลือเผื่อไว้ที่0.51บาท(ปลายแท่งแดงในอดีต) เพื่อจองคิวไว้เผื่อว่ามันจะวิ่งวันนี้

กราฟเปรียบเทียบราคาหุ้น BKD(ราคาอยู่ฝั่งขวามือ) และ BKD-W2(ราคาอยู่ฝั่งซ้ายมือ)

-เวลา15.55น. ฺBKD-W2 ราคา 0.50บาท หุ้นแม่ BKD ซิลลิ่ง 3.00บาท
-ผมเดาออกเลยว่าอีกไม่นาน หุ้นลูกมันต้องราคาร่วง เพราะใกล้ตลาดปิดแล้ว

คนส่วนใหญ่คาดว่าพรุ่งนี้หุ้นแม่ที่ขึ้นมาเยอะแล้วมันต้องย่อก่อนแน่ๆ
–>ดังนั้นถ้าตัวแม่ย่อ ลูกมันต้องร่วงแน่นอน

-ผมจึงต้องขาย BKD-W2หมดที่ 0.50บาท ดังภาพด้านบน

เหตุการณ์นี้จะเห็นว่าBKD-W2ขึ้นมา138% เวลาลงมันต้องลงแรงแน่ๆ
-ผมรอดู BKD-W2ร่วง ตามทีคาดไว้แล้วก็…. เรียบร้อย

BKD-W2 เวลา 16.18น.

ฉะนั้นแล้วเวลามีแผนการเล่นก็ให้เล่นตามแผน
เช่นในตัวนี้แผนคือเหมือนกับกราฟที่เคยเกิดในอดีต
เข้าซื้อขายตามคนหมู่มาก เมื่อถึงราคาเป้าหมายแล้วก็ควรขายออกไป…ก่อนที่กำไรจะเปลี่ยนเป็นขาดทุน

สุดท้ายนี้ ผมไม่รู้อนาคตว่า BKD-W2 มันจะวิ่งไปได้ถึงราคากี่บาท
แต่ในเมื่อพฤติกรรมราคาในอดีตไม่ได้บอกไว้
ทำให้ราคาจะขึ้นได้ยากกว่าเดิมเพราะนักลงทุนขาดความมั่นใจในการถือ

เมื่อคนส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจ = มีแรงขาย

โฟสหน้าผมจะมาสอนเรื่อง
2. หุ้นจับมือ (หุ้นใดๆที่มีกิจการร่วมกันวิ่ง มันต้องวิ่งคู่กัน) ตัวอย่างเช่น TRUE กับ DTAC,
3. หุ้นเพื่อนบ้าน (หุ้นใดที่อยู่ตลาดเดียวกัน ขึ้น ลงเหมือนกันในคราวก่อน มันก็จะวิ่งเหมือนกัน) ตัวอย่างเช่น การวิ่งของ HANA และ KCE

_
กดติดตามไว้นะครับ

stockisfun

stockisfun

ผู้หมกมุ่นอยู่กับการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ หุ้น TFEX FOREX ทอง คู่เงิน และ Cryptocurrency ผู้เขียนมีลูกสองคน เขียนบทความเพื่อบันทึกไว้ให้ลูกอ่าน หากมีคนในเพจมาอ่านก็ยินดีอย่างยิ่ง บางครั้งก็สอนหุ้นเป็นงานอดิเรก

Recent Posts

Follow Us

Related Posts